:Sentence telephone conversation
ถามว่าใครโทรมา
***
– May I ask who is calling, please?
= ขอถามได้ไหมครับ/คะ ว่าใครโทรมาครับ/คะ
– May I have your name, please?
= ขอทราบชื่อคุณได้ไหมครับ/คะ
– May I ask who is calling, please?
= ขอถามได้ไหมครับ/คะ ว่าใครโทรมาครับ/คะ
– May I have your name, please?
= ขอทราบชื่อคุณได้ไหมครับ/คะ
**
– Who’s calling, please?
= ใครโทรมาครับ/คะ
– Who’s calling, please?
= ใครโทรมาครับ/คะ
*
– Who is this?
= นี่ใครหรอ
– Who is this?
= นี่ใครหรอ
ถามคนโทรมาว่าต้องการคุยกับใคร
***
– Who would you like to speak to?
= คุณต้องการพูดกับใครครับ/คะ
– Who would you like to speak to?
= คุณต้องการพูดกับใครครับ/คะ
**
– Who are you calling for?
= คุณโทรมาหาใครครับ/คะ
– Who are you calling for?
= คุณโทรมาหาใครครับ/คะ
การถามหาคนที่ต้องการสนทนาด้วย
***
– May I speak to Tony?
= ขอพูดสายกับโทนี่หน่อยครับ/ค่ะ
– I’d like to talk to Tony.
= อยากพูดสายกับโทนี่สักหน่อยครับ/ค่ะ
– May I speak to Tony?
= ขอพูดสายกับโทนี่หน่อยครับ/ค่ะ
– I’d like to talk to Tony.
= อยากพูดสายกับโทนี่สักหน่อยครับ/ค่ะ
**
– Tony, please.
= (คุยกับ)โทนี่หน่อยครับ/ค่ะ
– Tony, please.
= (คุยกับ)โทนี่หน่อยครับ/ค่ะ
*
– Is Tony there?
= โทนี่อยู่ไหม
– Is Tony there?
= โทนี่อยู่ไหม
ถามว่าใครโทรมา
***
– May I ask who is calling, please?
= ขอถามได้ไหมครับ/คะ ว่าใครโทรมาครับ/คะ
– May I have your name, please?
= ขอทราบชื่อคุณได้ไหมครับ/คะ
– May I ask who is calling, please?
= ขอถามได้ไหมครับ/คะ ว่าใครโทรมาครับ/คะ
– May I have your name, please?
= ขอทราบชื่อคุณได้ไหมครับ/คะ
**
– Who’s calling, please?
= ใครโทรมาครับ/คะ
– Who’s calling, please?
= ใครโทรมาครับ/คะ
*
– Who is this?
= นี่ใครหรอ
– Who is this?
= นี่ใครหรอ
ถามคนโทรมาว่าต้องการคุยกับใคร
***
– Who would you like to speak to?
= คุณต้องการพูดกับใครครับ/คะ
– Who would you like to speak to?
= คุณต้องการพูดกับใครครับ/คะ
**
– Who are you calling for?
= คุณโทรมาหาใครครับ/คะ
– Who are you calling for?
= คุณโทรมาหาใครครับ/คะ
การถามหาคนที่ต้องการสนทนาด้วย
***
– May I speak to Tony?
= ขอพูดสายกับโทนี่หน่อยครับ/ค่ะ
– I’d like to talk to Tony.
= อยากพูดสายกับโทนี่สักหน่อยครับ/ค่ะ
– May I speak to Tony?
= ขอพูดสายกับโทนี่หน่อยครับ/ค่ะ
– I’d like to talk to Tony.
= อยากพูดสายกับโทนี่สักหน่อยครับ/ค่ะ
**
– Tony, please.
= (คุยกับ)โทนี่หน่อยครับ/ค่ะ
– Tony, please.
= (คุยกับ)โทนี่หน่อยครับ/ค่ะ
*
– Is Tony there?
= โทนี่อยู่ไหม
– Is Tony there?
= โทนี่อยู่ไหม
บอกว่าเราเป็นใคร
***
– TonAmorn Company, may I help you?
= บริษัทต้นอมร มีอะไรให้ช่วยเหลือบ้างครับ/คะ
– TonAmorn Company, may I help you?
= บริษัทต้นอมร มีอะไรให้ช่วยเหลือบ้างครับ/คะ
**
– This is Amorn from TonAmorn Company.
(This is …+ name… from …+ company…)
= นี่อมร จากบริษัทต้นอมรครับ
– This is Amorn.
(This is + …name…)
= ผมอมรนะครับ
– This is Amorn from TonAmorn Company.
(This is …+ name… from …+ company…)
= นี่อมร จากบริษัทต้นอมรครับ
– This is Amorn.
(This is + …name…)
= ผมอมรนะครับ
บอกให้รอสักครู่ ภาษาอังกฤษ
***
– Could you wait for just one moment, please?
= กรุณารอสักครู่ครับ/ค่ะ
– Could you wait for just one moment, please?
= กรุณารอสักครู่ครับ/ค่ะ
**
– One moment, please.
= สักครู่ครับ/ค่ะ
– One moment, please.
= สักครู่ครับ/ค่ะ
บอกว่าเขาคนนั้นติดธุระอยู่
***
– He/She is not available at the moment.
= ตอนนี้เขาไม่ว่างเลยครับ
– He/She is not available at the moment.
= ตอนนี้เขาไม่ว่างเลยครับ
คำศัพท์น่ารู้
available (อะเวล’ละเบิล) ว่าง, มีอยู่, ใช้ประโยชน์ได้
available (อะเวล’ละเบิล) ว่าง, มีอยู่, ใช้ประโยชน์ได้
**
บอกว่าเขากำลังติดสายอื่นอยู่
– His/Her line is busy right now.
– He/She is on another line right now.
– He/She is on the phone at the moment.
บอกว่าเขากำลังติดสายอื่นอยู่
– His/Her line is busy right now.
– He/She is on another line right now.
– He/She is on the phone at the moment.
ฝากข้อความ ขอให้โทรกลับ
***
– Could you please take a message for me?
= ช่วยกรุณารับข้อความไว้ได้ไหมครับ/คะ
– Could you ask him/her to call me back?
= กรุณาบอกให้เขาโทรกลับหาฉันด้วยได้ไหมครับ/คะ
– Could you please take a message for me?
= ช่วยกรุณารับข้อความไว้ได้ไหมครับ/คะ
– Could you ask him/her to call me back?
= กรุณาบอกให้เขาโทรกลับหาฉันด้วยได้ไหมครับ/คะ
**
– May I leave a message?
= ฉันฝากข้อความไว้หน่อยได้ไหมครับ/คะ
– Please tell him/her I called.
= ช่วยบอกเขาหน่อยว่าฉันโทรมาครับ/ค่ะ
– May I leave a message?
= ฉันฝากข้อความไว้หน่อยได้ไหมครับ/คะ
– Please tell him/her I called.
= ช่วยบอกเขาหน่อยว่าฉันโทรมาครับ/ค่ะ
ประโยคพูดเมื่อเราโทรกลับไป
**
– I’m sorry I missed your call this morning.
= ขอโทษที่เมื่อเช้าพลาดสายของคุณครับ/ค่ะ
– I’m returning your call from this morning.
= ฉันโทรกลับจากเมื่อเช้าที่คุณโทรมาครับ/ค่ะ
– This is Tony, returning your call from this morning.
= นี่โทนี่นะ โทรกลับจากเมื่อเช้าที่คุณโทรมาครับ
– I’m sorry I missed your call this morning.
= ขอโทษที่เมื่อเช้าพลาดสายของคุณครับ/ค่ะ
– I’m returning your call from this morning.
= ฉันโทรกลับจากเมื่อเช้าที่คุณโทรมาครับ/ค่ะ
– This is Tony, returning your call from this morning.
= นี่โทนี่นะ โทรกลับจากเมื่อเช้าที่คุณโทรมาครับ
*
– I heard you called me.
= ได้ยินว่าคุณโทรมาหาฉัน
– I heard you called me.
= ได้ยินว่าคุณโทรมาหาฉัน
: The conversation about the appointment
การนัดหมาย (Making Appointments)
-
I need to make an appointment with you for business discussion. (ผมต้องการนัดพบคุณเพื่อปรึกษาเรื่องธุรกิจ)
-
Would it be possible to make an appointment with Mr. Peter tomorrow? (เป็นไปได้ไหมครับ ที่จะนัดพบคุณปีเตอร์พรุ่งนี้)
-
Could I see you sometime this week? (ผมขอพบคุณสัปดาห์นี้ได้ไหม)
-
Could we set up a meeting for next Friday at 9 a.m.? (เรานัดประชุมกันวันศุกร์หน้าเวลา 9 โมง ได้ไหม)
-
Can we get together and discuss for more? (พวกเรามาเจอกันแล้วคุยหารือกันให้มากกว่านี้ ได้ไหม)
-
Could I make an appointment to see you next week? (ผมขอนัดคุณสัปดาห์หน้าได้ไหม)
- I need to make an appointment with you for business discussion. (ผมต้องการนัดพบคุณเพื่อปรึกษาเรื่องธุรกิจ)
- Would it be possible to make an appointment with Mr. Peter tomorrow? (เป็นไปได้ไหมครับ ที่จะนัดพบคุณปีเตอร์พรุ่งนี้)
- Could I see you sometime this week? (ผมขอพบคุณสัปดาห์นี้ได้ไหม)
- Could we set up a meeting for next Friday at 9 a.m.? (เรานัดประชุมกันวันศุกร์หน้าเวลา 9 โมง ได้ไหม)
- Can we get together and discuss for more? (พวกเรามาเจอกันแล้วคุยหารือกันให้มากกว่านี้ ได้ไหม)
- Could I make an appointment to see you next week? (ผมขอนัดคุณสัปดาห์หน้าได้ไหม)
นัดเวลาสำหรับนัดหมาย (Setting up time for Appointments)
-
Is next Monday convenient for you? (พบกันจันทร์หน้าจะสะดวกคุณไหม)
-
Can we meet on the 2nd of January? (พบกันวันที่ 2 มกราคม ได้ไหม)
-
How about tomorrow at 9.00 a.m.? (เจอกันพรุ่งนี้ 9 โมง เป็นไง)
-
Ten o’clock is too late. Can we move up to 9 o’clock? (10 โมงสายเกินไปนะ ขอเลื่อนเป็น 9 โมงได้ไหม)
-
When can we meet? (เราจะเจอกันเมื่อไหร่ดี)
-
Are you available on the 8th? (วันที่ 8 คุณว่างไหมล่ะ)
-
Is 11 a.m. a good time for you? (เวลา 11 โมง ดีไหมล่ะ)
-
What about sometime next week? (เจอกันสัปดาห์หน้าเป็นไงล่ะ)
-
Can (could) we meet on Wednesday instead? (พบกันวันพุธแทนได้ไหม)
-
Is this time OK with you? (เวลานี้คุณเห็นด้วยไหม)
-
What time would be convenient for you? (เวลาไหนสะดวกสำหรับคุณครับ)
-
Please call me up what is the good time for you. (แล้วโทรมาบอกนะว่าเวลาไหนเหมาะสำหรับคุณ)
-
Would Sunday suit you? (วันอาทิตย์สะดวกไหม)
-
Are you free next week? (อาทิตย์หน้าว่างไหม)
-
I would like to see you at your earliest convenience. (ผมอยากพบคุณให้เร็วที่สุดที่คุณจะสะดวกได้)
- Is next Monday convenient for you? (พบกันจันทร์หน้าจะสะดวกคุณไหม)
- Can we meet on the 2nd of January? (พบกันวันที่ 2 มกราคม ได้ไหม)
- How about tomorrow at 9.00 a.m.? (เจอกันพรุ่งนี้ 9 โมง เป็นไง)
- Ten o’clock is too late. Can we move up to 9 o’clock? (10 โมงสายเกินไปนะ ขอเลื่อนเป็น 9 โมงได้ไหม)
- When can we meet? (เราจะเจอกันเมื่อไหร่ดี)
- Are you available on the 8th? (วันที่ 8 คุณว่างไหมล่ะ)
- Is 11 a.m. a good time for you? (เวลา 11 โมง ดีไหมล่ะ)
- What about sometime next week? (เจอกันสัปดาห์หน้าเป็นไงล่ะ)
- Can (could) we meet on Wednesday instead? (พบกันวันพุธแทนได้ไหม)
- Is this time OK with you? (เวลานี้คุณเห็นด้วยไหม)
- What time would be convenient for you? (เวลาไหนสะดวกสำหรับคุณครับ)
- Please call me up what is the good time for you. (แล้วโทรมาบอกนะว่าเวลาไหนเหมาะสำหรับคุณ)
- Would Sunday suit you? (วันอาทิตย์สะดวกไหม)
- Are you free next week? (อาทิตย์หน้าว่างไหม)
- I would like to see you at your earliest convenience. (ผมอยากพบคุณให้เร็วที่สุดที่คุณจะสะดวกได้)
การปฏิเสธนัด (Rejection of Appointment)
-
I’m sorry, I have another engagement. (เสียใจครับ ผมมีนัดที่อื่นแล้ว)
-
I’m sorry, I’ll be on leave at that time. (เสียใจครับ ช่วงเวลานั้นผมลางานอยู่ครับ)
-
I’m sorry, I won’t be able to make it on Sunday. (เสียใจครับ ผมไม่ว่างนะวันอาทิตย์)
-
I’m expecting someone at that time. (ผมนัดบางคนไว้เวลานั้นพอดี)
-
I’m afraid, I can’t make it at 10 o’clock. If possible, I would like to meet you in the afternoon. (ผมเกรงว่าจะพบคุณตอน 10 โมงไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้ ผมขอเจอคุณในตอนบ่าย)
-
I’m very sorry, but something urgent has come up. (ผมเสียใจจริงๆ พอดีมีงานด่วนแทรกเข้ามา)
-
I’m fully booked up. (ผมมีภารกิจเต็มไปหมดเลย)
:Conversations in restaurants
- I’m sorry, I have another engagement. (เสียใจครับ ผมมีนัดที่อื่นแล้ว)
- I’m sorry, I’ll be on leave at that time. (เสียใจครับ ช่วงเวลานั้นผมลางานอยู่ครับ)
- I’m sorry, I won’t be able to make it on Sunday. (เสียใจครับ ผมไม่ว่างนะวันอาทิตย์)
- I’m expecting someone at that time. (ผมนัดบางคนไว้เวลานั้นพอดี)
- I’m afraid, I can’t make it at 10 o’clock. If possible, I would like to meet you in the afternoon. (ผมเกรงว่าจะพบคุณตอน 10 โมงไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้ ผมขอเจอคุณในตอนบ่าย)
- I’m very sorry, but something urgent has come up. (ผมเสียใจจริงๆ พอดีมีงานด่วนแทรกเข้ามา)
- I’m fully booked up. (ผมมีภารกิจเต็มไปหมดเลย)
:Conversations in restaurants
1. บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร ::: จองโต๊ะร้านอาหาร
A : (On the phone) Four Seasons Restaurant. May I help you?
(ออน เธอะ โฟน) โฟร์ ซีซันส์ เรสเตอรันท เมย์ ไอ เฮลพ ยู
(ขณะสนทนาทางโทรศัพท์) ภัตตาคาร 4 ซีชั่น มีอะไรให้รับใช้คะ
(ออน เธอะ โฟน) โฟร์ ซีซันส์ เรสเตอรันท เมย์ ไอ เฮลพ ยู
(ขณะสนทนาทางโทรศัพท์) ภัตตาคาร 4 ซีชั่น มีอะไรให้รับใช้คะ
B : Yes. I’d like to make a reservation for dinner tomorrow.
(เยส ไอ’ด ไล้ค ทู เมค อะ เรเซอร์เวชั่น ฟอร์ ดินเนอร์ ทูมอร์โรว)
ครับ ผมต้องการจองโต๊ะรับประทานอาหารเย็นวันพรุ่งนี้
(เยส ไอ’ด ไล้ค ทู เมค อะ เรเซอร์เวชั่น ฟอร์ ดินเนอร์ ทูมอร์โรว)
ครับ ผมต้องการจองโต๊ะรับประทานอาหารเย็นวันพรุ่งนี้
A : I see. What time will you come, sir?
(ไอ ซี ว้อท ไทม์ วิล ยู คัม เซอร์)
ตกลงค่ะ คุณจะมาถึงกี่โมงคะ
(ไอ ซี ว้อท ไทม์ วิล ยู คัม เซอร์)
ตกลงค่ะ คุณจะมาถึงกี่โมงคะ
B : Around 7.
(อะราว เซเว่น)
ประมาณหนึ่งทุ่มครับ
(อะราว เซเว่น)
ประมาณหนึ่งทุ่มครับ
A : May I have your name, please ?
(เม ไอ แฮฟว ยัวร์ เนม พลีส)
ขอทราบชื่อของคุณด้วยค่ะ
(เม ไอ แฮฟว ยัวร์ เนม พลีส)
ขอทราบชื่อของคุณด้วยค่ะ
B : Mike Chen.
(ไมค์ เชน)
ไมค์ เชน
(ไมค์ เชน)
ไมค์ เชน
A : How many will be in your party ?
(ฮาว เมนี่ วิล บี อิน ยัวร์ ปาร์ตี้)
จะมีผู้มาร่วมงานกี่ท่านคะ
(ฮาว เมนี่ วิล บี อิน ยัวร์ ปาร์ตี้)
จะมีผู้มาร่วมงานกี่ท่านคะ
B : Three. I’d prefer a table by the window.
(ทรี ไอ’ด พรีเฟอร์ อะ เทเบิ้ล บาย เธอะ วินโด้ว)
3 คนครับ ผมต้องการโต๊ะใกล้หน้าต่างด้วยนะครับ
(ทรี ไอ’ด พรีเฟอร์ อะ เทเบิ้ล บาย เธอะ วินโด้ว)
3 คนครับ ผมต้องการโต๊ะใกล้หน้าต่างด้วยนะครับ
A : Do you have a table for two ?
(ดู ยู แฮฟว อะ เทเบิ้ล ฟอร์ ทวู)
คุณมีที่นั่งสำหรับ 2 ที่ไหมครับ
(ดู ยู แฮฟว อะ เทเบิ้ล ฟอร์ ทวู)
คุณมีที่นั่งสำหรับ 2 ที่ไหมครับ
B : Do you have a reservation ?
(ดู ยู แอฟว อะ เรเซอร์เวชั่น)
ไม่ทราบคุณจองที่ไว้หรือเปล่าคะ
(ดู ยู แอฟว อะ เรเซอร์เวชั่น)
ไม่ทราบคุณจองที่ไว้หรือเปล่าคะ
A : No.
(โน)
ไม่ครับ
(โน)
ไม่ครับ
B : I’m sorry, but there’re no tables available now.
(ไอ’ม ซอรี่ บัท แธร์’ร โน เทเบิ้ล อะไวลเลเบิ้ล นาว)
ต้องขอโทษด้วยค่ะ แต่เรายังไม่มีที่ว่างตอนนี้เลย
(ไอ’ม ซอรี่ บัท แธร์’ร โน เทเบิ้ล อะไวลเลเบิ้ล นาว)
ต้องขอโทษด้วยค่ะ แต่เรายังไม่มีที่ว่างตอนนี้เลย
A : How long will it be ?
(ฮาว ลอง วิล อิท บี)
จะใช้เวลานานแค่ไหนครับ
(ฮาว ลอง วิล อิท บี)
จะใช้เวลานานแค่ไหนครับ
B : I’m not sure…. In about 20 minutes ? Would you like to wait in the bar?
(ไอ,ม น้อท ชัวร์…. อิน อะเบ้าท์ ทเว้นตี้ มินนิทส์ วู้ด ยู ไล้ค ทู เวท อิน เธอะ บาร์)
ดิฉันไม่แน่ใจ ประมาณ 20 นาที ไม่ทราบว่าคุณจะรอที่บาร์ได้ไหมคะ
(ไอ,ม น้อท ชัวร์…. อิน อะเบ้าท์ ทเว้นตี้ มินนิทส์ วู้ด ยู ไล้ค ทู เวท อิน เธอะ บาร์)
ดิฉันไม่แน่ใจ ประมาณ 20 นาที ไม่ทราบว่าคุณจะรอที่บาร์ได้ไหมคะ
A : Fine. Please call us when you have a table.
(ไฟน์ พลีส คอล อัส เว็น ยู แฮฟว อะ เทเบิ้ล)
ได้ครับ กรุณาเรียกเราเมื่อมีที่ว่างครับ
(ไฟน์ พลีส คอล อัส เว็น ยู แฮฟว อะ เทเบิ้ล)
ได้ครับ กรุณาเรียกเราเมื่อมีที่ว่างครับ
A : Shogun Restaurant. (ร้านอาหารโชกุนค่ะ)
B : Hi, I would like to make a dinner reservation. (ค่ะ ฉันอยากจะทำการจองโต๊ะค่ะ)
A : Of course, what evening will you be joining us on? (ได้ค่ะ คุณอยากจะจองในเย็นไหนคะ)
B : We will need the reservation for Tuesday night. (เราอยากจะจองในคืนวันอังคาร)
A : What time would you like the reservation for? (คุณอยากจะจองในเวลาเท่าไหร่)
B : We would prefer 7:30 pm. (เราอยากจองทุ่มครึ่ง)
A : How many people will you need the reservation for? (คุณจะจองสำหรับคนจำนวนเท่าไหร่คะ)
B : There will be 4 of us. (สี่ท่านค่ะ)
A : Fine, 7:30 on Tuesday, may i have your name. (ค่ะ หนึ่งทุ่มสามสิบนาที วันอังคาร ขอทราบชื่อคุณด้วยค่ะ)
B : My name is Sara. (ฉันชื่อซาร่าค่ะ)
A : See you at 7:30 this Tuesday, Ms. Sara. (เจอกันทุ่มสามวันอังคารนี้นะคะ คุณซาร่า)
B : Thank you so much. (ขอบคุณมากค่ะ)
2. บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร ::: ที่ร้านอาหารหรือภัตตาคาร
A : May I take your order, sir ?
(เม ไอ เทค ยัวร์ ออร์เดอร์ เซอร์)
คุณจะสั่งอาหารอะไรดีคะ
(เม ไอ เทค ยัวร์ ออร์เดอร์ เซอร์)
คุณจะสั่งอาหารอะไรดีคะ
B : Yes. This gentleman will have the beef stew, and I’ll have the sirloin steak.
(เยส ธีส เจนเทิลแมน วิล แฮฟว เธอะ บีฟ สตูล แอนด์ไอ’ล แฮฟว เธอะ ซิลอย สเต็ก)
ครับ คุณผู้ชายคนนี้ขอรับสตูลเนื้อ และของผมขอสเต็กเนื้อครับ
(เยส ธีส เจนเทิลแมน วิล แฮฟว เธอะ บีฟ สตูล แอนด์ไอ’ล แฮฟว เธอะ ซิลอย สเต็ก)
ครับ คุณผู้ชายคนนี้ขอรับสตูลเนื้อ และของผมขอสเต็กเนื้อครับ
A : Yes, sir. And how would you like your beef ?
(เยส เซอร์ แอนด์ ฮาว วู้ด ยู ไล้ค ยัว บีฟ)
ได้ค่ะ และคุณต้องการเนื้อสุกแบบไหนคะ
(เยส เซอร์ แอนด์ ฮาว วู้ด ยู ไล้ค ยัว บีฟ)
ได้ค่ะ และคุณต้องการเนื้อสุกแบบไหนคะ
B : Well-done, please.
(เวล-ดัน พลีส)
ขอสุกๆครับ
(เวล-ดัน พลีส)
ขอสุกๆครับ
A : How about you, sir ?
(ฮาว อะเบ้าท์ ยู เซอร์)
แล้วสำหรับคุณล่ะคะ
(ฮาว อะเบ้าท์ ยู เซอร์)
แล้วสำหรับคุณล่ะคะ
C : Medium-rare, please.
(มีเดียม-แรร์ พลีส)
ขอปานกลางครับ
(มีเดียม-แรร์ พลีส)
ขอปานกลางครับ
A : Yes, sir. Would you like a drink first with your meal ?
(เยส เซอร์ วู้ด ยู ไล้ค อะ ดริ้ง เฟริสท์ วิธ ยัวร์ มีล)
ค่ะ คุณต้องการจะรับเครื่องดื่มก่อนหรือไม่คะ
(เยส เซอร์ วู้ด ยู ไล้ค อะ ดริ้ง เฟริสท์ วิธ ยัวร์ มีล)
ค่ะ คุณต้องการจะรับเครื่องดื่มก่อนหรือไม่คะ
B : Why don’t we have cocktails ?
(วาย โด้น วี แฮฟว ค้อกเทลส์)
ทำไมเราไม่ลองเป็นค้อกเทล
(วาย โด้น วี แฮฟว ค้อกเทลส์)
ทำไมเราไม่ลองเป็นค้อกเทล
A : This was a splendid meal. I really enjoyed it.
(ธีส ว้อส ระ สเพลนดิด มีล ไอ เรียลรี่ เอ็นจอยด์ อิท)
อาหารมื้อนี้เป็นอาหารที่วิเศษที่สุด ผมรู้สึกอิ่มอร่อยจริงๆ
(ธีส ว้อส ระ สเพลนดิด มีล ไอ เรียลรี่ เอ็นจอยด์ อิท)
อาหารมื้อนี้เป็นอาหารที่วิเศษที่สุด ผมรู้สึกอิ่มอร่อยจริงๆ
B : I’m glad you like it. Will you have a cognac to round off the meal ?
(ไอม แกรด ยู ไล้ค อิท วิล ยู เฮฟว อะ คองยัค ทู เรานด ออฟ เธอะ มีล)
ดิฉันรู้สึกยินดีที่คุณชอบ ไม่ทราบคุณจะรับบรั่นดีตบท้ายมื้ออาหารไหมคะ
(ไอม แกรด ยู ไล้ค อิท วิล ยู เฮฟว อะ คองยัค ทู เรานด ออฟ เธอะ มีล)
ดิฉันรู้สึกยินดีที่คุณชอบ ไม่ทราบคุณจะรับบรั่นดีตบท้ายมื้ออาหารไหมคะ
A : I don’t mind if you do.
(ไอ โด้น มายด์ อีฟ ยู ดู)
ผมไม่ครับ ถ้าคุณต้องการ
(ไอ โด้น มายด์ อีฟ ยู ดู)
ผมไม่ครับ ถ้าคุณต้องการ
C : Waiter, show me the cognac list.
(เวทเทอร์ โชว์ มี เธอะ คองยัค ลิสท์)
บริกรครับ ให้ผมดูรายการบรั่นดีหน่อยครับ
(เวทเทอร์ โชว์ มี เธอะ คองยัค ลิสท์)
บริกรครับ ให้ผมดูรายการบรั่นดีหน่อยครับ
B : Yes, sir.
(เยส เซอร์)
ได้ค่ะท่าน
(เยส เซอร์)
ได้ค่ะท่าน
——————————————————————————————————
3. บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร ::: ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด
A : Welcome, what would you like to order? (ยินดีต้อนรับครับ คุณอยากสั่งอะไรครับ)
B : I would like to get a double cheeseburger. (ฉันอยากได้ชีสเบอร์เกอร์สองชิ้นค่ะ)
A : Would you like everything on it? (คุณอยากใส่รวมทุกอย่างใช่ไหมครับ)
B : I would like everything on it, thank you. (ฉันต้องการใส่ทุกอย่างเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ)
A : Do you want any fries? (คุณจะรับมันฝรั่งทอดด้วยไหมครับ)
B : Let me get some large fries. (เอามันฝรั่งทอดใหญ่ให้ฉันค่ะ)
A : Would you like anything to drink? (คุณต้องการเครื่องดื่มอะไรไหมครับ)
B : I want a glass of Pepsi? (ฉันขอเปปซี่แก้วนึงค่ะ)
A : OK, just moment (โอเคครับ รอสักครู่นะครับ)
B : Thank you. (ขอบคุณค่ะ)
You : Hi. I want two chicken burger and one caesar salad? (สวัสดีค่ะ ฉันอยากได้เบอร์เกอร์ไก่ 2 ชุดและซีซ่าส์สลัด 1 ชุด)
Seller : What would you like to drink? (จะรับเครื่องดื่มอะไรดีค่ะ?)
You : Can I have just a cup of water? (ขอแค่แก้วเปล่าค่ะ)
Seller : Sure. Anythingelse? (ค่ะ. รับอะไรเพิ่มมั้ยคะ?)
You : No. (ไม่ค่ะ)
Seller : Alright. That’s gonna be 18.85 dollars please. (ทั้งหมดคิดเป็นเงิน 18.85 ดอลล่าส์ค่ะ)
You : Here you go. (นี่ค่ะเงิน)
Seller : Thank you. Salad will be served at the table in two minutes. (ขอบคุณค่ะ. สลัดจะเสริฟที่โต๊ะของคุณในอีก 2 นาทีค่ะ)
——————————————————————————————————
4. บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร ::: สั่งอาหารและเครื่องดื่ม
A : What will you have, sir ?
(ว้อท วิล ยู แฮฟว เซอร์)
คุณจะสั่งอะไรดีคะ
(ว้อท วิล ยู แฮฟว เซอร์)
คุณจะสั่งอะไรดีคะ
B : Just a moment, please. I haven’t decided yet.
(จัส อะ โมเม้นท์ พลีส ไอ แอฟววึ่น ดีไซด์ด เยท)
รอสักครู่ครับ ผมยังไม่ได้ตัดสินใจ
(จัส อะ โมเม้นท์ พลีส ไอ แอฟววึ่น ดีไซด์ด เยท)
รอสักครู่ครับ ผมยังไม่ได้ตัดสินใจ
B : What do you recommend?
(ว้อท ดู ยู เรคคอมเมนด์)
ไม่ทราบคุณจะแนะนำอาหารอะไรดีครับ
(ว้อท ดู ยู เรคคอมเมนด์)
ไม่ทราบคุณจะแนะนำอาหารอะไรดีครับ
A : Our specialty for the day is roast duck.
(เอาว สเปเชียลที่ ฟอ เธอะ เดย์ อีส โรสท์ ดักค์)
อาหารพิเศษของเราวันนี้คือเป็ดอบค่ะ
(เอาว สเปเชียลที่ ฟอ เธอะ เดย์ อีส โรสท์ ดักค์)
อาหารพิเศษของเราวันนี้คือเป็ดอบค่ะ
A : What would you like for dessert ?
(ว้อท วู้ด ยู ไล้ค ฟอ ดีเซริท)
ไม่ทราบคุณจะรับของหวานอะไรดีคะ
(ว้อท วู้ด ยู ไล้ค ฟอ ดีเซริท)
ไม่ทราบคุณจะรับของหวานอะไรดีคะ
B : I’ll skip the dessert.
(ไอ’ล สคิป เธอะ ดีเซริท)
ผมขอไม่รับของหวานครับ
(ไอ’ล สคิป เธอะ ดีเซริท)
ผมขอไม่รับของหวานครับ
B : This is not what I ordered.
(ธีส อีส น้อท ว้อท ไอ ออร์เดอร์ด)
จานนี้ไม่ใช่ที่ผมสั่งไปนี่ครับ
(ธีส อีส น้อท ว้อท ไอ ออร์เดอร์ด)
จานนี้ไม่ใช่ที่ผมสั่งไปนี่ครับ
A : I’m sorry, sir.
(ไอม ซอรี่ เซอร์)
ขอโทษด้วยค่ะท่าน
(ไอม ซอรี่ เซอร์)
ขอโทษด้วยค่ะท่าน
——————————
A : Can I start you off with anything to drink? (คุณจะรับอะไรดีสำหรับเครื่องดื่มครับ)
B : Yes, may I have some water, please? (ค่ะ ฉันขอน้ำเปล่าได้ไหมค่ะ)
A : Sure, would you like any appetizers today? (ได้ครับ วันนี้คุณจะสั่งอาหารเรียกน้ำย่อยอะไรไหมครับ)
B : May I get an order of barbeque wings? (ฉันจะสั่งปีกไก่บาร์บีคิวได้ไหมคะ)
A : No problem, can I get you anything else? (ไม่มีปัญหา คุณจะรับอะไรอีกไหมครับ)
B : No, thank you, that’ll be all for now. (ไม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ พอเท่านี้ก่อนค่ะ)
A : Let me know when you’re ready to order your food. (แจ้งให้ผมทราบด้วยครับเมื่อคุณพร้อมสั่งอาหาร)
B : I’m ready. (ฉันพร้อมแล้วค่ะ)
A : What can I get you? (คุณรับอะไรดีครับ)
B : May I have the Fettuccini Alfredo? (เอาพาสต้าอัลเฟรให้ฉันได้ไหมคะ)
A : Will that be all? (แค่นั้นใช่ไหมครับ)
B : Yes, that’s it. (ใช่ค่ะ แค่นั้นค่ะ)
5. บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร
Cony : Hello there, I am Mr. Cony, I have a table for two reserved.
(เฮ็ลโล แด ไอ แอม มิสเตอะ ไวท ไอ แฮฝ อะ เท๊เบิล ฟอ ทู ริเซิฝดึ)
สวัสดีครับ ผมชื่อ โคนี่ ผมได้จองโต๊ะสำหรับสองคนไว้
(เฮ็ลโล แด ไอ แอม มิสเตอะ ไวท ไอ แฮฝ อะ เท๊เบิล ฟอ ทู ริเซิฝดึ)
สวัสดีครับ ผมชื่อ โคนี่ ผมได้จองโต๊ะสำหรับสองคนไว้
Hostess : Hello, okay, let me just check. Ok, right this way sir.
(เฮ็ลโล โอ๊เค เล็ท มี จัสท เช็ค โอ๊เค ไรท ดิส เว เซอ)
สวัสดีค่ะ ขอดิฉันเช็คก่อนนะคะ เชิญทางนี้ค่ะท่าน
(เฮ็ลโล โอ๊เค เล็ท มี จัสท เช็ค โอ๊เค ไรท ดิส เว เซอ)
สวัสดีค่ะ ขอดิฉันเช็คก่อนนะคะ เชิญทางนี้ค่ะท่าน
(พนักงานบริการเดินเข้ามา)
Waitress : Hello, I’m Christina, I will be your waitress today. Can I get you some drinks to start with? We also have some fresh Italian bread and a salad bar if you would like.
(ไฮ ไอม คริสติน่า ไอ วิล บี ยัว เว๊ทเทร็ส ทุเด๊ แคน ไอ เก็ท ยู ซัม ดริงส ทุ สตาท วิ๊ธ วี ออลโซ แอฝ ซัม เฟรช อิทแท๊ลเลียน เบรด แอน อะ แซ๊ลเลิด บา อิฟ ยู วุด ไลค)
สวัสดีค่ะ ดิฉันคริสติน่า ดิฉันจะเป็นพนักงานบริการของคุณวันนี้ จะให้ดิฉันเอาอะไรให้ท่านดื่มก่อนดีคะ เรามีขนมปังอิตาเลียนใหม่ๆและสลัดบาร์อีกด้วย ถ้าท่านต้องการ
(ไฮ ไอม คริสติน่า ไอ วิล บี ยัว เว๊ทเทร็ส ทุเด๊ แคน ไอ เก็ท ยู ซัม ดริงส ทุ สตาท วิ๊ธ วี ออลโซ แอฝ ซัม เฟรช อิทแท๊ลเลียน เบรด แอน อะ แซ๊ลเลิด บา อิฟ ยู วุด ไลค)
สวัสดีค่ะ ดิฉันคริสติน่า ดิฉันจะเป็นพนักงานบริการของคุณวันนี้ จะให้ดิฉันเอาอะไรให้ท่านดื่มก่อนดีคะ เรามีขนมปังอิตาเลียนใหม่ๆและสลัดบาร์อีกด้วย ถ้าท่านต้องการ
Cony : I would love some bread; and some of your best wine please.
(ไอ วุด ลัฝ ซัม เบรด แอน ซัม ออฟ ยัว เบสท ไวน์ พลีส)
ผมขอขนมปังและไวน์ที่ดีที่สุดของคุณครับ
(ไอ วุด ลัฝ ซัม เบรด แอน ซัม ออฟ ยัว เบสท ไวน์ พลีส)
ผมขอขนมปังและไวน์ที่ดีที่สุดของคุณครับ
Waitress : Okay, would you like to hear about the specials today?
(โอ๊เค วุด ยู ไลค ทุ เฮีย อะเบ๊า เดอะ สเป๊เชียล ทุเด๊)
ค่ะ ท่านต้องการทราบเกี่ยวกับอาหารพิเศษของวันนี้ไหมคะ
(โอ๊เค วุด ยู ไลค ทุ เฮีย อะเบ๊า เดอะ สเป๊เชียล ทุเด๊)
ค่ะ ท่านต้องการทราบเกี่ยวกับอาหารพิเศษของวันนี้ไหมคะ
Cony : No thank you. We already know what we want.
(โน แธ็งคิว วี ออลเร๊ดดิ โน ว็อท วี ว็อนท)
ไม่ครับ ขอบคุณ เราทราบแล้วว่าเราต้องการสั่งอะไร
(โน แธ็งคิว วี ออลเร๊ดดิ โน ว็อท วี ว็อนท)
ไม่ครับ ขอบคุณ เราทราบแล้วว่าเราต้องการสั่งอะไร
Waitress : Okay then I will be right back with the wine and bread.
(โอ๊เค เด็น ไอ วิล บี ไรท แบ็ค วิธ เดอะ ไวน แอน เบรด)
ค่ะ งั้นดิฉันจะกลับมาพร้อมกับไวน์และขนมปังนะคะ
(โอ๊เค เด็น ไอ วิล บี ไรท แบ็ค วิธ เดอะ ไวน แอน เบรด)
ค่ะ งั้นดิฉันจะกลับมาพร้อมกับไวน์และขนมปังนะคะ
(ห้านาทีต่อมา)
Waitress : Here is a 2010 Bordeaux and Burgundy wine; you can’t get much better than this anywhere.
(เฮีย อิส อะ ทูเธ๊าเซิน เท็น บอโด๊ แอน เบ๊อกันดี ไวน์ ยู แค๊นท เก็ท มัช เบ็ทเทอะ แดน ดิส เอ็นนิแว)
นี่ค่ะ ไวน์เบอร์กันดีและบอร์โดปี 2010 ท่านไม่สามารถหาที่ไหนได้ดีกว่านี้แล้วค่ะ
(เฮีย อิส อะ ทูเธ๊าเซิน เท็น บอโด๊ แอน เบ๊อกันดี ไวน์ ยู แค๊นท เก็ท มัช เบ็ทเทอะ แดน ดิส เอ็นนิแว)
นี่ค่ะ ไวน์เบอร์กันดีและบอร์โดปี 2010 ท่านไม่สามารถหาที่ไหนได้ดีกว่านี้แล้วค่ะ
Cony : Great.
(เกรท)
เยี่ยมเลย
(เกรท)
เยี่ยมเลย
Waitress : And the Italian bread is still warm from the oven.
(แอน ดิ อิทแท๊ลเลียน เบรด อิส สติล วอม ฟรอม ดิ อ๊อฝเวิน)
และขนมปังอิตาเลียนยังคงอุ่นจากเตาอบค่ะ
(แอน ดิ อิทแท๊ลเลียน เบรด อิส สติล วอม ฟรอม ดิ อ๊อฝเวิน)
และขนมปังอิตาเลียนยังคงอุ่นจากเตาอบค่ะ
Cony : Thank you.
(แธงคิว)
ขอบคุณ
(แธงคิว)
ขอบคุณ
Waitress : Are you ready to order?
(อา ยู เร็ดดิ ทุ ออเด๊อะ)
ท่านพร้อมจะสั่งอาหารหรือยังคะ
(อา ยู เร็ดดิ ทุ ออเด๊อะ)
ท่านพร้อมจะสั่งอาหารหรือยังคะ
Cony : Yes please. My wife would like the Eggplant Parmesan and I am going to have the Lobster Ravioli.
(เย็ส พลีส มาย ไวฟ ไลค์ ดิ เอ็กพลานท พามิแซ๊น แอน ไอ แอม โกวิง ทุ แฮฝ เดอะ ล็อบเสตอะ แรวิโอ๊ลิ)
ครับ ภรรยาผมต้องการมะเขือม่วงอบชีส และผมขอราวีโอลีล็อบเสตอร์
(เย็ส พลีส มาย ไวฟ ไลค์ ดิ เอ็กพลานท พามิแซ๊น แอน ไอ แอม โกวิง ทุ แฮฝ เดอะ ล็อบเสตอะ แรวิโอ๊ลิ)
ครับ ภรรยาผมต้องการมะเขือม่วงอบชีส และผมขอราวีโอลีล็อบเสตอร์
Waitress : Okay, no problem. Can I do anything else for you?
(โอ๊เค โน พร๊อบเบลิม แคน ไอ ดู เอ็นนิธิง เอ็ลส ฟอ ยู๊)
ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา มีอย่างอื่นอีกไหมคะ
(โอ๊เค โน พร๊อบเบลิม แคน ไอ ดู เอ็นนิธิง เอ็ลส ฟอ ยู๊)
ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา มีอย่างอื่นอีกไหมคะ
Cony : No thanks.
(โน แธงคส)
ไม่ครับ ขอบคุณ
(โน แธงคส)
ไม่ครับ ขอบคุณ
(10 นาทีต่อมา)
Waitress : Here is the Eggplant Parmesan for you, madam and the Lobster Ravioli for you, sir.
(เฮีย อิส ดิ เอ็กพลานท พามิแซ๊น ฟอ ยู แม๊เดิม แอน เดอะ ล็อบเสตอะ แรวิโอ๊ลิ ฟอ ยู เซอ)
นี่ค่ะ มะเขือม่วงอบชีสสำหรับคุณนาย และราวีโอลี ล็อบเสตอร์สำหรับท่านค่ะ
(เฮีย อิส ดิ เอ็กพลานท พามิแซ๊น ฟอ ยู แม๊เดิม แอน เดอะ ล็อบเสตอะ แรวิโอ๊ลิ ฟอ ยู เซอ)
นี่ค่ะ มะเขือม่วงอบชีสสำหรับคุณนาย และราวีโอลี ล็อบเสตอร์สำหรับท่านค่ะ
Cony : Thanks.
(แธงคส)
ขอบคุณครับ
(แธงคส)
ขอบคุณครับ
(ลูกค้าทานเสร็จ กวักมือเรียกพนักงานเก็บเงิน)
Cony : Can I have the bill, please.
(แคน ไอ แฮฝ เดอะ บิล พลีส)
ขอบิลด้วยครับ
(แคน ไอ แฮฝ เดอะ บิล พลีส)
ขอบิลด้วยครับ
Waitress : Here is your bill. Thank you for coming and I hope you have a great night.
(เฮีย อิส ยัว บิล แธงคิว ฟอ คั๊มมิง ทุไนท แอน ไอ โฮพ ยู อะ เกรท ไนท)
นี่ค่ะ บิลของคุณ ขอบคุณที่มาและขอให้เป็นคืนที่สดใสนะคะ
(เฮีย อิส ยัว บิล แธงคิว ฟอ คั๊มมิง ทุไนท แอน ไอ โฮพ ยู อะ เกรท ไนท)
นี่ค่ะ บิลของคุณ ขอบคุณที่มาและขอให้เป็นคืนที่สดใสนะคะ
Cony : Thank you. We really enjoyed it.
(แธงคิว วี เรี๊ยลลิ อินจ๊อยด อิท)
ขอบคุณ พวกเราประทับใจจริงๆ
(แธงคิว วี เรี๊ยลลิ อินจ๊อยด อิท)
ขอบคุณ พวกเราประทับใจจริงๆ
(ยี่นเงินให้พร้อมทิป)
Cony : Good night.
(กุดไน๊ท)
ราตรีสวัสดิ์
(กุดไน๊ท)
ราตรีสวัสดิ์
Waitress : Good night.
(กุดไน๊ท)
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
(กุดไน๊ท)
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
——————————
Host : Hello sir, welcome to the French Garden Restaurant. How many?
เจ้าของร้าน : สวัสดี คุณผู้ชาย, ยินดีต้อนรับสู่ร้านอาหารเฟรนช์ การ์เดน. จำนวนกี่ท่าน?
เจ้าของร้าน : สวัสดี คุณผู้ชาย, ยินดีต้อนรับสู่ร้านอาหารเฟรนช์ การ์เดน. จำนวนกี่ท่าน?
Charles : One.
ชาร์ลส : หนึ่งคน.
ชาร์ลส : หนึ่งคน.
Host : Right this way. Please have a seat. Your waitress will be with you in a moment.
เจ้าของร้าน : งั้นเชิญทางนี้เลย เชิญนั่ง อีกสักครู่พนักงานเสิร์ฟของคุณจะมาคอยบริการ.
เจ้าของร้าน : งั้นเชิญทางนี้เลย เชิญนั่ง อีกสักครู่พนักงานเสิร์ฟของคุณจะมาคอยบริการ.
Waitress : Hello sir, would you like to order now?
พนักงานเสิร์ฟ : สวัสดี คุณผู้ชาย, ตอนนี้คุณอยากจะสั่งอะไรไหม?
พนักงานเสิร์ฟ : สวัสดี คุณผู้ชาย, ตอนนี้คุณอยากจะสั่งอะไรไหม?
Charles : Yes please.
ชาร์ลส : ใช่ครับ.
ชาร์ลส : ใช่ครับ.
Waitress : What would you like to drink?
พนักงานเสิร์ฟ : คุณ อยากจะดื่มอะไรไหม?
พนักงานเสิร์ฟ : คุณ อยากจะดื่มอะไรไหม?
Charles : What do you have?
ชาร์ลส : คุณ มีอะไรบ้างล่ะ?
ชาร์ลส : คุณ มีอะไรบ้างล่ะ?
Waitress : We have bottled water, juice, and Coke.
พนักงานเสิร์ฟ : เรามีน้ำดื่ม, น้ำผลไม้, และโค้ก.
พนักงานเสิร์ฟ : เรามีน้ำดื่ม, น้ำผลไม้, และโค้ก.
Charles : I’ll have a bottle of water please.
ชาร์ลส : ผมขอน้ำเปล่าขวดหนึ่ง.
ชาร์ลส : ผมขอน้ำเปล่าขวดหนึ่ง.
Waitress : What would you like to eat?
พนักงานเสิร์ฟ : คุณอยากจะทานอะไร?
พนักงานเสิร์ฟ : คุณอยากจะทานอะไร?
Charles : I’ll have a tuna fish sandwich and a bowl of vegetable soup.
ชาร์ลส : ผมจะทาน แซนวิชปลาทูน่า และ ซุปผักสักถ้วย
ชาร์ลส : ผมจะทาน แซนวิชปลาทูน่า และ ซุปผักสักถ้วย
:Asked about the dialogue
ถามทาง (Asking for directions)
- Excuse me, could you show me the way to Siam Square? (ขอโทษ คุณจะกรุณาบอกทางไปสยามสแควร์ให้ผมได้ไหม)
- Excuse me, where is the Central Department Store? (ขอโทษ ห้างเซ็นทรัลไปทางไหนครับ)
- Do you know where Miracle Grand Hotel is? (คุณทราบไหมว่าโรงแรมมิราเคิลแกรนด์อยู่ที่ไหน)
- Do you know where the toilet is? (คุณรู้ไหมว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน)
- Do you know the way to the Airport? (คุณรู้ทางไปสนามบินไหม)
- Excuse me, could you show me how to get to this address? (ขอโทษ คุณจะกรุณาบอกทางไปยังที่อยู่นี้แก่ผมได้ไหม)
- Excuse me, how do I get to the Ma Boon Krong Shopping Center? (ขอโทษ ผมจะไปศูนย์การค้ามาบุญครองยังไงครับ)
- Excuse me, where is the nearest public telephone? (ขอโทษครับ โทรศัพท์สาธารณะใกล้ที่สุดอยู่ไหนครับ)
- How can I get to the Grand Place? (ผมจะไปพระบรมมหาราชวังยังไงครับ)
คำตอบบอกทิศทาง-สถานที่ (Reply for directions)
- Turn left. (เลี้ยวซ้าย)
- Turn right. (เลี้ยวขวา)
- Turn left at the next corner. (เลี้ยวซ้ายที่หัวมุมข้างหน้า)
- Go straight ahead. (ตรงไปเลย)
- It’s to your right (left). (อยู่ทางขวา (ซ้าย) มือของคุณ)
- It’s across the street. (อยู่ตรงข้ามถนน)
- Turn right at the intersection. (เลี้ยวขวาที่สี่แยก)
- It’s behind that building. (อยู่หลังตึกนั้น)
- It’s in front of that big building. (อยู่หน้าตึกใหญ่นั่น)
- It’s near the bridge. (อยู่ใกล้สะพาน)
- It’s close to the bus terminal. (อยู่ใกล้กับสถานีขนส่ง)
- It’s very far from here. (อยู่ไกลจากที่นี่มาก)
- It’s not far from here. (ไม่ไกลจากนี่)
- It’s a huge brick building. (เป็นตึกอิฐหลังใหญ่)
- It’s to the right of the railway station. (อยู่ทางขวาของสถานีรถไฟ)
- It’s over the bridge. (อยู่ข้ามสะพานไป)
- You will see the building on your right. (คุณจะเห็นตึกอยู่ทางขวามือของคุณ)
- Keep going until you get to a small bridge. (เดินต่อไปเรื่อยๆจนถึงสะพานเล็กๆ)
- It’s about 200 meters from here. (อยู่ห่างจากนี่ 200 เมตร)
- It’s on the other side of the park. (อยู่อีกด้านหนึ่งของสวน)
: Fruits Trading
nut : Good morning. Can I help you ?
( กู้ด ม้อร์นิ่ง แคน ไอ เฮล ยู )
สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ
jenny : Yes, please. I want to buy some fruit. Do you have some papayas ?
( เยส พลีส ไอ ว้อน ทู บาย ซัม ฟรุ้ท ดู ยู แฮฟ ซัม พัพพ่ะย่ะ )
มีค่ะ ฉันต้องการซื้อผลไม้ คุณมีมะละกอไหมคะ
nut : Yes. How many do you want ?
( เยส ฮาว เม้นี่ ดู ยู ว้อน )
มีค่ะ คุณต้องการเท่าไหร่คะ
jenny : Two please, and give me six apples, a pomelo and a watermelon too. Do you have
Oranges ?
( ทู พลีส แอน กีฟ มี ซิกส แอปเปิล อะพอมมิโล แอน อะวอเทอร์มิเลิ่น ทุ ดู ยู แฮฟ
ออเรนจส )
เอา 2 ลูกค่ะ และฉันอยากได้แอปเปิ้ล 6 ลูก ส้มโอ 1 ลูก และแตงโม 1 ลูก คุณมีส้มไหมคะ
nut : Yes. How many do you want ?
( เยส ฮาว เม้นี่ ดู ยู ว้อนท )
มีค่ะ คุณต้องการเท่าไหร่คะ
jenny : I want 2 kilos.
( ไอ ว้อน ทู กิโลส์ )
ฉันต้องการ 2 กิโลค่ะ
nut : Is there anything else ?
( อิส แด เอนี่ทิ่ง เอ้ลส )
คุณต้องการสิ่งอื่นอีกไหม
jenny : No, that’ s all
( โน แดทส ออล )
ไม่ล่ะ พอแล้ว
nut : Can I help you ?
( แคน ไอ เฮล ยู )
มีอะไรให้ฉันช่วยไหม
jenny : I want to buy some fruit.
(ไอ ว้อน ทู บาย ซัม ฟรุ้ท )
ฉันต้องการซื้อผลไม้jenny : Do you have papayas ?
( ดู ยู แฮฟ พัพพ่ะย่ะ )
คุณมีมะละกอไหม
nut : How many do you want ?
( ฮาว เม้นี่ ดู ยู ว้อน )
คุณต้องการเท่าไหร่
nut : Is there anything else ?
( อิส แด เอนี่ทิ่ง เอ้ลส )
คุณต้องการสิ่งอื่นอีกไหม
jenny : No, that’ s all.
( โน แดทส ออล )
ไม่ล่ะ พอแล้ว
nut : Good morning. Can I help you ?
( กู้ด ม้อร์นิ่ง แคน ไอ เฮล ยู )
สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ
jenny : Yes, please. I want to buy some fruit. Do you have some papayas ?
( เยส พลีส ไอ ว้อน ทู บาย ซัม ฟรุ้ท ดู ยู แฮฟ ซัม พัพพ่ะย่ะ )
มีค่ะ ฉันต้องการซื้อผลไม้ คุณมีมะละกอไหมคะ
nut : Yes. How many do you want ?
( เยส ฮาว เม้นี่ ดู ยู ว้อน )
มีค่ะ คุณต้องการเท่าไหร่คะ
jenny : Two please, and give me six apples, a pomelo and a watermelon too. Do you have
Oranges ?
( ทู พลีส แอน กีฟ มี ซิกส แอปเปิล อะพอมมิโล แอน อะวอเทอร์มิเลิ่น ทุ ดู ยู แฮฟ
ออเรนจส )
เอา 2 ลูกค่ะ และฉันอยากได้แอปเปิ้ล 6 ลูก ส้มโอ 1 ลูก และแตงโม 1 ลูก คุณมีส้มไหมคะ
nut : Yes. How many do you want ?
( เยส ฮาว เม้นี่ ดู ยู ว้อนท )
มีค่ะ คุณต้องการเท่าไหร่คะ
jenny : I want 2 kilos.
( ไอ ว้อน ทู กิโลส์ )
ฉันต้องการ 2 กิโลค่ะ
nut : Is there anything else ?
( อิส แด เอนี่ทิ่ง เอ้ลส )
คุณต้องการสิ่งอื่นอีกไหม
jenny : No, that’ s all
( โน แดทส ออล )
ไม่ล่ะ พอแล้ว
nut : Can I help you ?
( แคน ไอ เฮล ยู )
มีอะไรให้ฉันช่วยไหม
jenny : I want to buy some fruit.
(ไอ ว้อน ทู บาย ซัม ฟรุ้ท )
ฉันต้องการซื้อผลไม้jenny : Do you have papayas ?
( ดู ยู แฮฟ พัพพ่ะย่ะ )
คุณมีมะละกอไหม
nut : How many do you want ?
( ฮาว เม้นี่ ดู ยู ว้อน )
คุณต้องการเท่าไหร่
nut : Is there anything else ?
( อิส แด เอนี่ทิ่ง เอ้ลส )
คุณต้องการสิ่งอื่นอีกไหม
jenny : No, that’ s all.
( โน แดทส ออล )
ไม่ล่ะ พอแล้ว
อ้างงอิง
http://wwwchalitacom.blogspot.com/p/blog-page_30.html
http://wwwchalitacom.blogspot.com/p/blog-page_30.html
http://www.thaistudyguide.com
http://everydayenglish.pwa.co.th/articlehttp://www.tonamorn.com/english/conversation/telephone/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น